เล่มที่หนึ่ง : Lust, Caution : เล่ห์ราคะ และเรื่องสั้นอื่นๆ
จำนวนหน้า : 192
ราคาปก : 210
จางอ้ายหลิง : เขียน
ภารวิณี ยังเจริญยืนยง : แปลจากต้นฉบับภาษาจีน
เฉลิมพันธุ์ ปัญจมาพิรมย์ : ออกแบบปก
Sasi Tee : ภาพประกอบปก
ทุกเล่มมีโปสการ์ด 1 ใบ และที่คั่น 2 แบบ แทรกในเล่ม
รายละเอียดหนังสือ
“เมื่อเกิดมาบนโลกนี้แล้ว ไม่มีความสัมพันธ์ใดไร้บาดแผล” ประเทศจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง การเมืองยังระส่ำระสาย ภัยคุกคามจากต่างชาติยังหนักหนา ความแร้นแค้นยังปรากฏทุกหัวระแหง แต่ชีวิตผู้คนยังคงดำเนินต่อไป หนังสือรวมห้าเรื่องสั้นของนักเขียนหญิงหัวก้าวหน้าผู้ล่วงลับ จางอ้ายหลิง ที่เราจะได้พบกับ : บ่ายวันหนึ่งในชีวิตของหญิงผู้ได้ชื่อว่าเป็นภรรยารอง / ความคับแค้นของหญิงรับใช้ในบ้านนายฝรั่ง / คู่บ่าวสาวกับครอบครัวและภาระทางสังคมที่พ่วงติดมากับการวิวาห์ / หลายชีวิตที่บังเอิญมาแตะต้องกันในคลินิกนวดกดจุด และเรื่องสั้นเรื่องสำคัญ Lust, Caution นักศึกษาสาวผู้อ่อนต่อโลก ยอมสละทุกอย่างเพื่ออุดมการณ์ความรักชาติ ก่อนที่จะพบว่า บางทีเธออาจจะประมาท ‘หัวใจ’ ตนเองมากเกินไป Lust, Caution เคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังโดยอั้งลี ที่รับบทนำโดย เหลียงเฉาเหว่ยและถังเหว่ย
เล่มที่สอง Like Water for Chocolate : ขมเป็นน้ำตาล หวานเป็นน้ำตา
จำนวนหน้า : 252
ราคาปก : 250
เลารา เอสกิเวล : เขียน
โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล : แปล
เฉลิมพันธุ์ ปัญจมาพิรมย์ : ออกแบบปก
Ping Hatta : ภาพประกอบปก
ทุกเล่มมีโปสการ์ด 2 ใบแทรกในเล่ม
รายละเอียดหนังสือ
นิยายสัจนิยมมหัศจรรย์จากเม็กซิโกเล่าเรื่องของความรักที่ต้องหลบเร้นระหว่างติตากับเปโดรสาวน้อยกับหนุ่มหล่อ ในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบที่สงครามของสองกลุ่มก้อนในประเทศคือฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายปฏิวัติกำลังคุกรุ่น ฉากหลังของเรื่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่พอจะได้รับผล กระทบจากสงครามเป็นระยะๆ แต่สิ่งที่สร้างความสะท้านสะเทือนอย่างแท้จริงและทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จำต้องถูกแอบซ่อนไว้ คือ
กฎเหล็กของครอบครัวติตา ซึ่งห้ามไม่ให้ลูกสาวคนเล็กแต่งงานแต่จะต้องอยู่โยงดูแลแม่จนกว่าจะตายจากกันไปข้าง ทันทีที่รู้ว่ามีกฎข้อนี้อยู่ เปโดรไม่คิดจะท้าทายหรือฝ่าฝืน เขาเลือกทำสิ่งที่สุดท้ายจะกลายเป็นการแก้ปัญหาเก่าที่สร้างปัญหาใหม่ (ซึ่งเลวร้ายกว่าเดิม) นั่นคือเขาตัดสินใจแต่งงานกับพี่สาวคนหนึ่งของติตาและย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของครอบครัวเธอเพื่อจะได้มีโอกาสใกล้ชิดติตามากขึ้น
สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้แตกต่างจากเรื่องเล่าของความรัก-ความลับส่วนใหญ่คือ มันเต็มไปด้วยเหตุ ‘มหัศจรรย’ อันเนื่องมาจากอารมณ์ความรู้สึกที่ติตาถ่ายทอดผ่านอาหารที่เธอเป็นคนปรุง นิยายเล่าว่าติตาเกิดและโตภายในห้องครัว ซึ่งทำให้เธอพัฒนาประสาทสัมผัสที่เกี่ยวข้องกับอาหารในแบบที่ไม่มีใครเหมือน นอกจากจะปรุงอาหารได้อร่อย ดูเหมือนว่าทุกความรู้สึกของเธอจะถูกถ่ายทอดลงไปสู่อาหาร และ ‘ส่งต่อ’ ไปยังผู้รับประทาน จนพวกเขาเหล่านั้นเกิดความรู้สึกไม่ต่างจากที่เธอรู้สึกขณะทำอาหารจานนั้นๆ อาหารของติตาทำให้คนร้องไห้ มีความสุข นึกถึงคนรักเก่า และ ‘ร้อนเร่่า’ ในระดับที่เจ้าของร่างกายไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มันเหมือนร่างกายกลายเป็นหุ่นชักให้กับอาหารรสมือติตาอย่างไรอย่างนั้น
เล่มที่สาม 3 Diary of a Tuscan Bookshop : ร้านหนังสือเล็กๆ แห่งทัสคานี
จำนวนหน้า : 240
ราคาปก : 260
อัลบา โดนาติ : เขียน
ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ : แปล
เฉลิมพันธุ์ ปัญจมาพิรมย์ : ออกแบบปก
Thanakorn Thongtub : ภาพประกอบปก
ทุกเล่มมีทีคั่น 4 ใบแทรกในเล่ม
รายละเอียดหนังสือ
“เรามีหนังสือ ‘ของเรา’ ไม่ใช่หนังสือที่คุณจะพบได้ทุกที่ มันเหมือนกับชั้นหนังสือของคุณเองที่บ้าน ไม่ว่าจะเก่าหรือเพิ่งออกใหม่ หนังสือต้องมีความหมาย มันถูกเลือกให้มาอยู่ตรงนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง” ทำร้านหนังสือว่ายากแล้ว แต่อัลบา โดนาติ ผู้หญิงชาวอิตาลีที่ทำหน้าที่ ‘มดงาน’ ในธุรกิจสำนักพิมพ์มาเป็นสิบปี ได้ทำสิ่งที่ทำให้ชีวิตของตนเองยากขึ้นไปอีกด้วยการเปิดร้านหนังสือในหมู่บ้านที่มีประชากร 180 คน! หมู่บ้านนี้ชื่อ ลูชญาณา ตั้งอยู่บนภูเขาเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นทัสคานีที่มีเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างฟลอเรนซ์ อัลบาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองและร้านของเธอในรูปแบบของสมุดบันทึกที่กินระยะเวลาหกเดือน มันไม่ใช่ ‘ฮาวทู’ คู่มือที่บอกเล่าว่าการทำร้านหนังสือสักร้านเราจะต้องเจอกับอะไร เธอแค่เล่าว่าตนเองได้เจอกับอะไรมาบ้าง ร้านของเธอตั้งอยู่บนเขา ดังนั้นเหตุการณ์ทางธรรมชาติต่างๆล้วนมีผลกระทบต่อร้าน ฝนตก หิมะตก น้ำรอการระบาย ไฟไหม้ ไม่เว้นกระทั่งโควิด เสน่ห์ของหนังสือเล่มนี้ ไม่เพียงมันเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องของหนังสือ แต่อยู่ที่เรื่องราวของ ‘ผู้คน’ ไม่เฉพาะคุณอัลบา ที่มีส่วนทำให้เกิดร้านหนังสือแห่งนี้ พวกเขาไม่ใช่ผู้ทรงอิทธิพล ไม่ใช่ ‘คนในวงการ’ แต่เป็นบรรดาลุงป้าข้างบ้านที่ช่วยไปเม้าท์ไป เดินสวนกันตามถนนก็ยัดแบงค์ยับๆใส่มือบริจาคให้ร้าน
ลูกหลานเพื่อนของเพื่อนที่ว่างๆก็มาเป็นอาสาสมัครเฝ้าร้านให้ ช่างเหล็กที่อาจไม่ได้อินกับหนังสือมากมายแต่ทำประตูเหล็กดัดให้เป็นของขวัญวันเปิดร้าน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ไม่เพียงบ่งบอก ‘คาแรกเตอร์’ ของหนังสือเล่มนี้และของร้าน Libreria spora la Penna
(ลิเบรเรีย โซปรา ลา เปนนา) แต่ยังเหมือนกับเป็นการเฉลิมฉลองจิตวิญญาณที่สูญหายของหนังสืออยู่กลายๆว่า หนังสือไม่ควรถูกจำกัดว่าจะต้องเป็นของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยเฉพาะ แต่หนังสือควรเป็นของ ‘ทุกคน’
พิเศษสำหรับลูกค้าพรีออเดอร์จะได้รับกระเป๋าผ้าใบเนื้อหนา 1 ใบ ขนาด กว้าง 14.5 นิ้ว สูง 13 นิ้ว ก้นกระเป๋า 5 นิ้ว ด้านหน้ามีช่องเล็กหนึ่งช่อง สกรีนบนช่องเล็ก มีสองลาย *ไม่สามารถเลือกลายได้*
*พรีออเดอร์ 30 มีนาคม 2566 - 8 เมษายน 2566 ทยอยส่งหนังสือให้ลูกค้า 10 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
**หากสั่งหนังสือเล่มนี้พร้อมเล่มอื่นในออเดอร์เดียวกัน ทางร้านจะจัดส่งพร้อมกันเมื่อหนังสือเล่มนี้มาถึงร้าน หากต้องการให้ส่งเล่มอื่นก่อน กรุณาทำรายการแยกเป็นสองออเดอร์