“ซาจิเอะ” ฝันอยากมีร้านอาหารของตัวเอง แล้วโชคชะตาก็พาให้เธอมีโอกาสได้บินลัดฟ้าไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่เฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ซาจิเอะทำร้านอาหารของเธอด้วยความตั้งใจ ในชื่อว่า “ห้องอาหารนกนางนวล” เป็นร้านอาหารเล็กๆ ไม่มีสิ่งโดดเด่นสะดุดตา และไร้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ใดๆ เธอเพียงอยากให้คนเข้าร้านเพราะรู้สึกสนใจจริงๆ เท่านั้น ร้านของเธอนอกจากเสิร์ฟอาหารเครื่องดื่มแบบฟินแลนด์แล้ว ยังมีข้าวปั้นแบบเรียบง่ายที่ซาจิเอะทำด้วยความตั้งใจ เป็นข้าวปั้นไร้การปรุงแต่ง แบบเดียวกับที่พ่อทำให้เธอกินตั้งแต่เด็ก แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีลูกค้าคนไหนสนใจจะสั่งข้าวปั้นบ้างเลย
หลังจากซาจิเอะเปิดร้านได้ไม่นาน โชคชะตาก็ได้พา “มิโดริ” กับ “มาซาโกะ” หญิงชาวญี่ปุ่นอีกสองคนมาพบกับเธอ แม้ทั้งสามจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และมาฟินแลนด์ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกันไป แต่พวกเธอล้วนติดอยู่ในกรอบชีวิตที่คนอื่นเป็นผู้กำหนดให้มาโดยตลอด และเพิ่งได้มีโอกาสโบยบินไปบนเส้นทางที่ขีดขึ้นเองเป็นครั้งแรก ในช่วงวัย 40-50 ปี ซึ่งหลายคนอาจคิดว่ายากจะเริ่มต้นอะไรใหม่แล้ว
ชีวิตใน “ห้องอาหารนกนางนวล” ยังทำให้พวกเธอได้พบผู้คนอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตอมมิคุง เด็กหนุ่มอัธยาศัยดีผู้คลั่งไคล้ญี่ปุ่นที่มาสร้างความครื้นเครงให้เรื่อง คุณป้าลีซาหน้าบึ้งที่กำลังทุกข์ใจกับชีวิตชนิดที่ธรรมชาติสวยงามของฟินแลนด์ก็ยากจะเยียวยา และมัตติ ชายวัยเริ่มชรา ลูกค้าปริศนาของร้าน
นี่คือผลงานอีกเรื่องของ มูเระ โยโกะ ผู้เขียนวันที่เหมาะกับขนมปัง ซุป และแมว ซึ่งมาในบรรยากาศสว่างสดใส และอาจเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นระยะ แต่ขณะเดียวกันก็พาเราไปรู้จักหลากหลายชีวิตที่ผ่านเข้ามาใน “ห้องอาหารนกนางนวล” ซึ่งทำให้เราได้นิ่งคิดใคร่ครวญถึงชีวิตของตัวเองเช่นเคย
“ห้องอาหารนกนางนวล” เคยสร้างเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนประทับใจมาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 2006 รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า Kamome Diner